วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555

'ทิ้งปืน!! ปลูกป่า' เทคนิคดอนเมือง

'ทิ้งปืน!! ปลูกป่า' เทคนิคดอนเมือง

'ทิ้งปืน!! ปลูกป่า' เทคนิคดอนเมือง...เท่ยกแก๊ง : โดย... ผกามาศ ใจฉลาด

              มีครูบาอาจารย์หลายท่านที่วิทยาลัยเทคนิคดอนเมืองบ่นหนาหูเชิงน้อยใจว่าเวลาเด็กเทคนิคดอนเมืองส่วนใหญ่ทำเรื่องดีๆ ไปประกวดแข่งขันวิชาการได้รางวัล ไม่เห็นมีสื่อมวลชนสนใจไปทำข่าว แต่พอเด็กส่วนน้อยทำไม่ดีกลับตีข่าวใหญ่โต ทำให้ภาพวิทยาลัยเสียหาย แต่นั่นถือเป็นสัจธรรมชีวิตคนอยู่ร่วมกัน "ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง" อย่างไรก็ตาม ขอให้น้องๆ ทำความดีต่อไป สักวันต้องมีคนเห็นอย่างแน่นอน อย่างวันนี้ไปเห็นมาจะจะ เลยขอจัดเต็มให้น้องๆ วิทยาลัยเทคนิคดอนเมืองที่ยอมถอดเสื้อช็อป วางปากกา แท่งเหล็ก สายไฟ ไขควงไปจับต้นไม้ปลูกป่าสีเขียวให้แก่ท้องทะเลไทยกับเครือข่ายคนพิการ ในโครงการปลูกป่าชายเลน ณ ศูนย์การเรียนรู้และอนุรักษ์ป่าชายเลน หาดขลอด อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จัดโดยกรมการศาสนา (ศน.) กระทรวงวัฒนธรรม บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน การช่วยเหลือซึ่งกันและกันความภาคภูมิใจ
           ยิ่งไปกว่านั้นเป็นการปลูกป่าเทิดพระเกียรติแม่ของแผ่นดิน ปรีชา กันธิยะ อธิบดี ศน. เล่าว่า โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงตระหนักถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้พระราชทานแนวพระราชดำริในการพลิกฟื้นระบบสมดุลของธรรมชาติให้กลับคืนสู่ผืนแผ่นดินไทย
           ในฐานะรุ่นพี่อย่าง น้องฝน หรือน้ำฝน จำปาทอง นักเรียนชั้น ปวส.2 สาขาบัญชี บอกว่า พยายามปรับกิจกรรมและทัศนคติต่างๆ ที่ทำกับรุ่นน้อง จากกิจกรรมที่รุนแรง เช่น ให้ดื่มเหล้า หรือไปตีกัน มาเป็นกิจกรรมสร้างประโยชน์แก่สังคม เช่นการมาปลูกป่าครั้งนี้เป็นสิ่งที่รุ่นพี่อย่างเราชวนน้องๆ มาทำ ซึ่งหลายคนสมัครใจมาทำ เชื่อว่าอนาคตเราจะทำให้รุ่นน้องมาทำประโยชน์ให้แก่สังคมมากขึ้นกว่าไปตีกัน
             น้องเจริญ หรือเจริญ แซ่ย่อง นักเรียนชั้น ปวส.1 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ กล่าวว่า ได้มาทำกิจกรรมปลูกป่าเป็นครั้งแรก รู้สึกดีที่ได้ทำประโยชน์ให้แก่สังคม ต่อจากนี้ไปเราจะทำให้วิทยาลัยของเรามีชื่อเสียงในด้านดี ไม่ใช่มีแต่เรื่องของการตีกัน พอไปที่ไหนคนก็จะได้ไม่เข้ามาถามอีกว่า วิทยาลัยนี้ที่เขาตีกันใช่ไหม ต่อไปตนจะขึ้นเป็นรุ่นพี่ ก็จะหากิจกรรมดีๆ เหล่านี้มาให้รุ่นน้องได้ทำดีกว่าไปวิ่งไล่ตีกัน มันไม่เกิดประโยชน์แก่ใครแถมยังทำให้ตัวเองและคนอื่นเดือดร้อน
           วัชรธร ปภาพัฒน์กุล นักเรียนปวช. 2 ช่างอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า ที่ผ่านคนข้างนอกอาจจะมองว่า เด็กเทคนิคดอนเมืองเป็นพวกหัวรุนแรง มีการตีกัน แต่ในสถานการณ์ขณะนี้ ได้ผ่อนคลายลงแล้ว ซึ่งตนและเพื่อนได้มาร่วมกิจกรรมปลูกป่าเป็นครั้งแรก เชื่อว่าศาสนาจะกล่อมเกลาจิตใจให้ตน หรือเพื่อน ลดความรุนแรงลงได้ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะไม่เคยไปตีกับใคร ก็ไม่อยากให้มีความรุนแรงเกิดขึ้นอีก
            ปัจจุบันวิทยาลัยเทคนิคดอนเมืองมีนักเรียนอยู่ประมาณ 2,000 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม 1.กลุ่มเสี่ยง คือนักเรียนที่มีประวัติทำความผิด 200 คน 2.กลุ่มเฝ้าระวังที่พร้อมจะคล้อยตามกลุ่มเพื่อนและรุ่นพี่ที่อยู่กลุ่มเสี่ยง กลุ่มที่ 3 คือนักเรียนปกติ ถือเป็นเด็กส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม หากมีกิจกรรมจัดทำค่ายอบรมคุณธรรมจะคัดเลือกเอาเด็กกลุ่มเสี่ยง 200 คนเข้ารับการอบรมก่อน ส่วนกลุ่มเด็กที่ต้องเฝ้าระวังจะเน้นพาออกไปทำกิจกรรมให้บริการชุมชน เช่น โครงการ 108 อาชีพ โครงการศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน fix it center เป็นต้น
           แม้หลายคนจะมองปัญหาความก้าวร้าวของเด็กอาชีวะ ส่วนหนึ่งเกิดจากค่านิยมของผู้ปกครองที่ อยากให้ลูกเรียนจบปริญญา เลยส่งเสียให้ลูกเรียนในสายสามัญ ส่วนเด็กที่เหลือ ก็ถูกโยนมาที่วิทยาลัยอาชีวะ ทำให้เด็กเกิดปมด้อย และพยายามหาปมเด่นจากการรวมกลุ่มกับรุ่นพี่และรุ่นน้องไปกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทำตัวเป็นนักเลง แต่เชื่อมั่นว่าความพยายามของครูบาอาจารย์ หน่วยงานภายใน ภายนอก พ่อแม่ เพื่อนและตัวนักเรียนร่วมแรงร่วมใจกันทำกิจกรรมดีๆ จริงๆ จะนำไปสู่มิติใหม่ของนักเรียนวิทยาลัยเทคนิคดอนเมืองอย่างแน่นอน
.......................................................
นานาทัศนะ
           เหลือบไปเห็นคณะอาจารย์ ผู้บริหารของวิทยาลัยเทคนิคดอนเมืองที่กำลังนั่งยิ้ม มองดูลูก      ศิษย์อย่างภาคภูมิใจ อย่าง อาจารย์นวลน้อย สมุทรสกุลเจริญ อาจารย์วิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง กล่าวว่า การปลูกป่าชายเลนทำให้เด็กๆ ได้เปลี่ยนอิริยาบถจากเดิมเรียนอยู่ในห้องเรียนมาทำกิจกรรมดีๆ ได้ผ่อนคลายในอารมณ์จากความตึงเครียดในวิทยาลัย อีกทั้งได้ทำประโยชน์ต่อคนอื่น ต่อประเทศ ได้เห็นคุณค่าในตัวเขาเอง ที่สำคัญได้มาเห็นผู้ด้อยโอกาสที่ยังทำประโยชน์ได้ ตัวเขาไม่ได้พิการก็น่าที่จะสามารถทำประโยชน์ต่อสังคมได้
           "ถ้าเด็กอยู่แต่ในวิทยาลัย ก็เป็นธรรมดาเด็กช่างเห็นแต่เครื่องไม้เครื่องมือที่เป็นเหล็ก มีแต่ความแข็งกระด้างทุกวัน ตอกย้ำทำให้จิตใจเขาแข็งกระด้างไปด้วย ต่างจากที่ออกมาเห็นธรรมชาติ เห็นป่าบ่อยๆ ผู้คนอื่นๆ ในสังคม มีส่วนทำให้สภาพจิตใจเขาเห็นใจคนอื่นมากขึ้น" อาจารย์นวลน้อย กล่าว
          ขณะที่ คำรณ โพยมรัตน์ รองผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง เปิดใจว่า กิจกรรมนี้ทำให้ลูกศิษย์รู้จักคำว่า จิตสาธารณะ ให้เกิดขึ้นกับเด็ก แต่โอกาสทำดีไม่มีเลยไปสร้างปมเด่นนอกวิทยาลัย ไปรวมกลุ่มทะเลาะวิวาทกัน ถ้าเรานำเด็กมาทำกิจกรรมแบบนี้บ่อยๆ จะทำให้เด็กมีจิตสาธารณะ รู้จักการให้ การบริการ รู้จักทำให้สังคมดีขึ้น จะสร้างภูมิคุ้มกันในตัวเด็กให้ดีมากขึ้น
            "กิจกรรมดีๆ แบบนี้เราไม่ได้เข้าร่วมกันบ่อยๆ แต่จากนี้ไปเราจะนำเด็กเข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับสาธารณะมากขึ้น ในระยะแรกจะเชิญทุกคนมาเข้าร่วม จากนั้นจะเวียนไปทุกแผนก แม้จะมีปัญหาเรื่องของเวลา การเรียนการสอนเข้ามา แต่จะพยายามนำเด็กออกมาทำกิจกรรมดีๆ แบบนี้ให้มากขึ้น" คำรณ กล่าว
.........................................................
('ทิ้งปืน!! ปลูกป่า' เทคนิคดอนเมือง...เท่ยกแก๊ง : โดย... ผกามาศ ใจฉลาด )

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น