การสำรวจทรัพยากรโลกด้วยดาวเทียมสำรวจทรัพยากร
ได้วิวัฒนาการจากการได้รับภาพถ่ายโลก
ภาพแรกจากการส่งสัญญาณภาพของดาวเทียม Explorer VI
ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2502 ตั้งแต่นั้นมา การสำรวจโลกด้วยภาพถ่ายดาวเทียม ได้มีการพัฒนาเป็นลำดับทั้งระบบบันทึกข้อมูล และอุปการณ์ที่สามารถใช้ประโยชน์ด้านต่างๆ อย่างมากมาย
วิวัฒนาการของดาวเทียมสำรวจทรัพยากรเป็นไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง สามารถจำแนกระดับของวิวัฒนาการได้ 2 ระดับ คือ
1. ระดับวิจัยและพัฒนา (Research and Development)
2. ระดับปฏิบัติงาน (Operational)
ในระยะแรกดาวเทียมที่ส่งขึ้นไปมีอายุปฏิบัติงานช่วงสั้น
ในระยะแรกดาวเทียมที่ส่งขึ้นไปมีอายุปฏิบัติงานช่วงสั้น
ต่อมาเป็นระบบอัตโนมัติเพื่อใช้งานในระดับปฏิบัติงาน
รวมถึงระบบที่มีมนุษย์อวกาศควบคุมจนถึงปัจจุบัน
ดาวเทียมจำนวนมากได้ถูกส่งเข้าสู่วงโคจร
เพื่อประโยชน์ในด้านการสำรวจทรัพยากร
โดยมีดาวเทียม LANDSAT เป็นดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติดวงแรก
ที่ถูกส่งเข้าสู่วงโคจร เมื่อ พ.ศ. 2515
วิธีการทำงาน การใช้ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรและสภาพแวดล้อมของโลก เป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีการถ่ายภาพ และโทรคมนาคม โดยการทำงานของดาวเทียมสำรวจทรัพยากรจะใช้หลักการ สำรวจข้อมูลจากระยะไกล Remote Sensing หลักการที่สำคัญของดาวเทียมสำรวจทรัพยากร คือ Remote Sensing โดยใช้คลื่นแสงที่เป็นพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า (EME : Electro - Magnetic Energy) ทำหน้าที่เสมือนสื่อกลางส่งผ่านระหว่างวัตถุเป้าหมาย และอุปกรณ์บันทึกข้อมูล อุปกรณ์ถ่ายถาพที่ติดตั้งอยู่บนดาวเทียม มักจะได้รับการออกแบบให้มีความสามารถถ่ายภาพ และมีความหลากหลายในรายละเอียดของภาพได้อย่างเหมาะสม เพื่อประโยชน์ในการจำแนกประเภททรัพยากรที่สำคัญๆ |
วิถีการโคจร ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรจะโคจรแบบสัมพันธ์กับดวงอาทิตย์ (Sun - Synchronous) เป็นวงโคจรในแนวเหนือ - ใต้ และผ่านแนวละติจูดหนึ่งๆ ที่เวลาท้องถิ่นเดียวกัน ประโยชน์ที่ได้รับ (ศึกษาลักษณะภูมิประเทศ) - ด้านการสำรวจพื้นที่ป่าไม้ - ด้านการเกษตร - ด้านการใช้ที่ดิน - ด้านธรณีวิทยา เพื่อจัดทำแผนที่ภูมิประเทศ หาแหล่งทรัพยากรธรรมชาติในดิน - ด้านอุทกวิทยา เพื่อศึกษาสภาพและแหล่งน้ำ ทั้งบนดินและใต้ดิน ฯลฯ |
ตัวอย่างดาวเทียมเพื่อการสำรวจทรัพยากร ดาวเทียม LANDSAT-7 ขององค์การบริหารการบิน และอวกาศแห่งชาติสหรัฐอมริกา (National Aeronautic and Space Administration - NASA) โคจรสัมพันธ์กับดวงอาทิตย์เป็นวงผ่านขั้นโลก ทำมุมเอียง 98 องศา ที่ระดับความสูง 705.3 กิโลเมตร จากพื้นโลก ใช้เวลาในการโคจร 98.9 นาทีต่อรอบ ความถี่ในการถ่ายภาพซ้ำ 16 วัน ความกว้างของการบันทึกข้อมูล 185 กิโลเมตร มีการติดตั้งอุปกรณ์บันทึกข้อมูลระบบ Enhanced Thematic Mapper Plus (ETM+) ซึ่งสามารถให้ข้อมูลที่มีคุณสมบัติเหนือกว่าระบบ Thematic Mapper (TM) ของดาวเทียม LANDSAT-4, 5 และมีการพัฒนาเพิ่มเติมในบางส่วนสามารถถ่ายภาพได้ทั้งระบบบันทึกข้อมูล หลายช่วงคลื่น (Multispectral) และระบบบันทึกข้อมูลช่วงคลื่นเดียว (Panchromatic) |
ดาวเทียม SPOT-4 โคจรสัมพันธ์กับดวงอาทิตย์แบบ Polar Orbit ทำมุมเฉียง 98 องศาที่ระดับความสูงประมาณ 830 กม. ใช้เวลา 101 นาทีต่อการโคจร 1 รอบ มีความถี่ในการถ่ายภาพซ้ำ 26 วัน ดาวเทียม SPOT เป็นดาวเทียมที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ โดยมีอุปกรณ์ HRVIR ซึ่งพัฒนาจาก HRV และ Vegetation ซึ่งเป็นอุปกรณ์ถ่ายภาพบนดาวเทียม และสามารถปรับมุมกล้องให้มองไปทางด้านซ้ายหรือขวา ดังนั้นรูปแบบแนวถ่ายภาพจึงไม่คงที่ และสอดคล้องกับแนวโคจรดาวเทียม เช่น ในดาวเทียม LANDSAT แต่จะแปรเปลี่ยนไปขึ้นกับการโปรแกรมถ่ายภาพที่ควบคุมจากภาคพื้นดิน
แม้ว่าโดยปกติดาวเทียมจะมีการโคจรกลับมาถ่ายภาพในแนวเดิมทุกๆ 26 วันแต่คุณสมบัติในการเอียงกล้างได้นี้ ช่วยให้การถ่ายภาพซ้ำของบริเวณใดบริเวณหนึ่ง เป็นไปได้อย่างถี่ขึ้น ซึ่งมีประโยชน์ในการนำมาเปรียบเทียบเพื่อดูลักษณะการเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น