2. เวลาไปจ่ายค่าบัตรเครดิต คุณชำระเพียงแค่ยอดขั้นต่ำเท่านั้น
3. คุณคิดจะทำบัตรเครดิตเพิ่มอีกใบ เพื่อนำเงินมาชำระหนี้บัตรเครดิตใบเก่า (รวมแล้วคุณมีบัตรเครดิตเกิน 5 ใบ)
4. ในแต่ละเดือนคุณต้องจ่ายค่าบัตรเครดิตเป็นจำนวนมากจนเหลือเงินไม่พอใช้จ่ายอย่างอื่น
5. คุณค้างชำระค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ฯลฯ เป็นประจำ
6. คุณใช้เงินไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจอยากจะรู้ว่าเหลือเงินในบัญชีเท่าไรแล้วตอนนี้
7. ตอนนี้คุณเริ่มถูกทวงถามเรื่องค่าใช้จ่ายจากเพื่อนๆ หรือหน่วยงานต่างๆ แล้ว
8. คุณไม่มีเงินเก็บเลยในบัญชีธนาคาร
9. คุณใช้บัตรเครดิตซื้อของกินของใช้ประจำวัน เพราะไม่มีเงินสดติดกระเป๋า
10. ตัวคุณ หรือสามี-ภรรยา คุยกันเรื่องเงินน้อยลง แถมยังปกปิดค่าใช้จ่ายที่แท้จริงไม่ให้อีกฝ่ายรู้
วิธีแก้คือ ให้คุณทบทวนดูว่า สาเหตุอะไรที่ทำให้เงินขาดมือ และเป็นแค่ชั่วคราวเพราะมีเหตุฉุกเฉินอะไรบางอย่างเข้ามาทำให้มีค่าใช้จ่าย เพิ่มขึ้น หรือเป็นเพราะว่าเราไม่ใส่ใจดูแลการเงินให้ดีกันแน่
ถ้าเป็นเพราะเราไม่ใส่ใจดูแลการเงินให้ดีล่ะก็ ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายตั้งแต่บัดนี้ ถ้าปัญหานั้นเกิดจากคนอื่นในบ้าน ก็ต้องมานั่งพูดคุยกัน ร่วมมือกันเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยอาจทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายของทุกคนในบ้าน แล้วนำมานั่งดูให้รู้ปัญหาร่วมกัน หากทุกคนยอมรับได้ ก็ถือว่าการแก้ปัญหาสำเร็จไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว
จากนั้นขอให้ทุกคนทำบัญชีค่าใช้ จ่ายประจำวันของตัวเอง เพื่อจะได้ควบคุมการใช้จ่ายได้ ที่สำคัญคนที่มีหน้าที่ดูแลค่าใช้จ่ายภายในบ้านต้องมีวินัยในการชำระค่าใช้ จ่ายต่างๆ และห้ามนำเงินส่วนต่างๆ เหล่านี้มาใช้จ่ายกับเรื่องที่ไม่ได้วางแผนไว้โดยเด็ดขาด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น